1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange: EDI) คืออะไร
การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Data Interchange: EDI)
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีก
หน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย เช่น โทรศัพท์ สายเคเบิล ดาวเทียม เป็นต้น
แทนการส่งเอกสารโดยพนักงานส่งสารหรือไปรษณีย์ ระบบ EDI จะต้องใช้รูปแบบของเอกสารที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้หน่วยงานทางธุรกิจหรือ
องค์กรต่างๆ สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับมาตรฐานของ EDI ในประเทศไทยถูกกำหนดโดยกรมศุลกากร ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่นำระบบนี้มาใช้งาน คือ มาตรฐาน EDIFACT (Electronic Data Interchange for Administration, Commerce and Transport)
ตัวอย่าง ของเอกสารที่นำมาใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยระบบ EDI เช่น ใบสั่งซื้อสินค้า ใบเสนอราคา ใบกำกับสินค้า ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี เป็นต้น
บริษัท ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) เป็นองค์กรที่ให้บริการ EDI ทางการค้าระหว่างประเทศแก่หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ซึ่งได้ แก่ กรมศุลกากร บริษัทการบินไทย (มหาชน) จำกัด การท่าเรือแห่งประเทศไทย และกรมการค้าต่าง ประเทศ ตลอดจนผู้ใช้ในภาคเอกชน
ประโยชน์ของการใช้ระบบ EDI
1.ลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดส่งเอกสาร
2.ลดเวลาทำงานในการป้อนข้อมูล ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง
และลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลที่ซ้ำซ้อน
3.เพิ่มความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร
4.ลดค่าใช้จ่ายและภาระงานด้านเอกสาร
5.แก้ปัญหาอุปสรรคทางภูมิศาสตร์และเวลา
2. การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Data Interchange: EDI) มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร
ขั้นตอนการทำงานของระบบ
EDI มีดังนี้
1. ผู้ส่งทำการเตรียมข้อมูล และแปลงให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน UN/EDIFACT
โดยใช้ Translation Software
2. ผู้ส่งทำการส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการของผู้ให้บริการ EDI ผ่านเครือข่ายสาธารณะโดยใช้ Modem
3. ผู้ให้บริการ EDI จะจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ในตู้ไปรษณีย์
(Mailbox) ของผู้รับเมื่อข้อมูลไปถึงศูนย์บริการ
4. ผู้รับติดต่อมายังศูนย์บริการผ่าน Modem เพื่อรับข้อมูล
EDI ที่อยู่ในตู้ไปรษณีย์ของตน
5. ผู้รับแปลงข้อมูลกลับโดยใช้ Translation Software ให้อยู่ในรูปแบบที่ระบบงานของตนสามารถรับไปประมวลผลได้
3. ตัวอย่างธุรกิจที่สามารถนำการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้กับธุรกิจ
ทุกธุรกิจที่มีการใช้เอกสารจำนวนมากและเป็นประจำโดยมีขั้นตอนซ้ำๆ
แต่ต้องการความถูกต้องรวดเร็วและแม่นยำของข้อมูลเช่นธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ที่ต้องมีการสั่งซื้อสินค้าเป็นประจำ
ธุรกิจขนส่งซึ่งต้องใช้ข้อมูลประกอบในการจัดการขนส่งสินค้า ธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตสินค้าที่ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบและธุรกิจการค้า
ระหว่างประเทศ เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น
ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์น้ำมหาชัย
CPF (บมจเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จังหวัดสมุทรสาคร)
หน่วยงาน
สำนักห้องปฎิบัติการกลาง จะใช้ระบบพันธวณิช โดยเข้าที่
เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ในการสั่งซื้อ Order สินค้าและบริการให้กับหน่วยงาน
4. ประโยชน์ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic
Data Interchange: EDI)
มาใช้กับธุรกิจอย่างไร
เพิ่มความถูกต้อง
รวดเร็ว และแม่นยำ ในการรับ-ส่งเอกสาร ลดงานซ้ำซ้อน
และลดขั้นตอนการจัดการรับ-ส่งเอกสารสามารถนำเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์มากที่สุด
และลดขั้นตอนการจัดการรับ-ส่งเอกสารสามารถนำเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์มากที่สุด
ลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร เช่น ค่าแสตมป์ ค่าพัสดุไปรษณีย์
และพนักงาน
เพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่มีการแข่งขันสูงขึ้น
เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า
5.อธิบายความสัมพันธ์ของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์
EDI
ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจต่างๆมากมายหลายช่องทาง
ไม่ ว่าจะเปนร้านค้า (Merchant) หรือการค้าขายบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำได้ง่ายและไวต่อการซื้อขาย สินค้า ทำให้ลูกค้า (Customer) เชื่อมั่นในการบริการเพราะการชำระสินค้าต้องผ่านการบริการของระบบการเงิน หรือธนาคาร (Bank) ต่างๆ ทำให้การใช้ชีวิตของเราสนุกและสามารถหารายได้กับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์ EDI
ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจต่างๆมากมายหลายช่องทาง
ไม่ ว่าจะเปนร้านค้า (Merchant) หรือการค้าขายบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำได้ง่ายและไวต่อการซื้อขาย สินค้า ทำให้ลูกค้า (Customer) เชื่อมั่นในการบริการเพราะการชำระสินค้าต้องผ่านการบริการของระบบการเงิน หรือธนาคาร (Bank) ต่างๆ ทำให้การใช้ชีวิตของเราสนุกและสามารถหารายได้กับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์ EDI
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น